Menu

ข่าวความเคลื่อนไหว ผลวิจัยจากการทดลอง ของ สมุนไพร ชนิดต่างๆ

ผลของสารสกัดจากอบเชยญวนต่อประสิทธิภาพการเรียนรู้

ศึกษาผลของการรับประทานสารสกัด 2,4-bis(1,1-dimethylethyl)phenol (BP) จากอบเชยญวน (Cinnamomum loureirii) ต่อประสิทธิภาพการเรียนรู้ของหนูเม้าส์ โดยป้อนสารสกัด BP ขนาดวันละ 10, 20 และ 40 มก./กก. นานติดต่อกัน 3 สัปดาห์ ก่อนเหนี่ยวนำให้สูญเสียประสิทธิภาพการเรียนรู้ด้วยการฉีด trimethyltin (TMT) เข้าทางช่องท้องขนาด 2.5 มก./กก. หลังจากนั้น 2 วัน นำหนูไปทดสอบพฤติกรรมการเรียนรู้ด้วยวิธี Y-Maze test และ Passive Avoidance test ผลจากการทดลองพบว่า หนูเม้าส์กลุ่มที่ได้รับสารสกัด BP ขนาดวันละ 20 และ 40 มก./กก. มีพฤติกรรมการเรียนรู้ดีกว่ากลุ่มที่ฉีด TMT เพียงอย่างเดียว (กลุ่มควบคุม) อย่างมีนัยสำคัญ และเมื่อตรวจวิเคราะห์สารเคมีในสมองหนูเม้าส์พบว่า สารสกัด BP มีผลลดการทำงานของเอนไซม์ acetylcholinesterase (AChE) แลดการเกิดออกซิเดชันของไขมัน (lipid peroxidation) นอกจากนี้ยังมีผลเพิ่มระดับสารสื่อประสาท acetylcholine อีกด้วย ผลจากการศึกษาดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า สาร BP จากอบเชยญวนมีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการสูญเสียประสิทธิภาพการเรียนรู้โดยผ่านระบบประสาท cholinergic ซึ่งอาจมีประโยชน์ในการพัฒนาต่อยอดเพื่อเป็นยารักษาโรคสมองเสื่อมในอนาคตได้

Bio Pharm Bull. 2017; 40(6): 932-5.

ข้อมูลอ้างอิงจาก : ข่าวความเคลื่อนไหวสมุนไพร : สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.

1

2

3

4

5

6

บทความอื่นๆ

680

สารสกัดจากกาแฟกับการป้องกันผิวหนังถูกทำลายจากแสงแดด
สารสกัดจากกาแฟกับการป้องกันผิวหนังถูกทำลายจากแสงแดดการศึกษาผลของสารสกัดด้วยเมทานอลจากใบกาแฟ ในเซลล์ fibroblasts ต่อการป้องกันการทำลายผิวหนังจากแสงแดด พบว่าสารสกัดด้วยเมทานอลจากใบกาแฟความเข้มข้น 10 μg/ml สามารถกระตุ้นการแสดงออกของ procollagen type I เพิ่มขึ้นและสารสกัดด้วยเมทานอลจากใบกาแฟความเข้มข้น 5-25 μg/ml สามารถยับยั้งการแสดงออกของ metalloproteinase (MMP)-1, -3, -9 รวมทั้งยับยั้งการ phosphorylated ของ JNK, ERK และ p38 (สารในสัญญาณในการทำงานของระบบ MAP kinase)ในเซลล์ fibroblasts ที่ถูกก...

1017

ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคเท้าเหม็นและลดการอักเสบของมะขามป้อม
ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคเท้าเหม็นและลดการอักเสบของมะขามป้อมสารสกัด 95% เอทานอลจากเมล็ดและเนื้อของมะขามป้อม ความเข้มข้น 20 มก./แผ่น มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคเท้าเหม็น ได้แก่ Kytococcus sedentarius ATCC 27573, K. sedentarius ATCC 27574 และ K. sedentarius ATCC 27575 เมื่อทดสอบด้วยวิธี agar diffusion โดยพบว่าบริเวณยับยั้งเชื้อ (Inhibition zone) ของสารสกัดทั้งสอง มีค่าระหว่าง 18.67 - 42.37 และ 14.72 - 43.57 มม. ตามลำดับ และการศึกษาฤทธิ์ลดการอักเสบในหนูแรท โดยทาสารสกัด ...

746

ฤทธิ์ป้องกันโรคตับอักเสบเนื่องจากการสะสมไขมันในตับของชาดำ
ฤทธิ์ป้องกันโรคตับอักเสบเนื่องจากการสะสมไขมันในตับของชาดำการทดสอบฤทธิ์ของชาดำต่อการต้านตับอักเสบเนื่องจากการสะสมไขมันในตับ (non-alcoholic steatohepatitis) พบว่าการป้อนอาหารไขมันสูงร่วมกับการให้ชาดำความเข้มข้น 2.5% ขนาด 10 มล./กก.น้ำหนักตัว นาน 30 วัน ช่วยป้องกันการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำตาล คอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอร์ไรด์, low-density lipoprotein (LDL), very low-density lipoprotein (vLDL), high density lipoprotein (HDL) และ bilirubin ในเลือดได้เมื่อเทียบกับหนูแรทที่ได้รับ อาหารไขมันสูงเพียงอย่างเดียว แ...

343

ขิงป้องกันพิษต่อไต
ขิงป้องกันพิษต่อไตเมื่อป้อนสารสกัดด้วย 70% เอทานอลจากเหง้าขิง ขนาด 250 และ 500 มก./กก. หรือขนาด 250 มก./กก. ร่วมกับวิตามินอี 250 มก./กก. หรือวิตามินอี 250 มก./กก. ให้หนูถีบจักร 1 ชม. ก่อน และ 24, 48 ชม. หลังจากถูกทำให้ไตผิดปกติด้วยการฉีด cisplatin พบว่าสารทั้ง 4 กลุ่ม จะลดพิษต่อไตได้ ระดับ creatinine และ urea ในเลือดลดลง นอกจากนั้นยังออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ เอนไซม์ superoxide dismutase, catalase และ glutathione peroxidase เพิ่มขึ้น สารสกัดจากขิงในขนาดสูงจะออกฤทธิ์ได้ดีกว่าขนาด 250 มก./กก. สาร...

1646

ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบของรำข้าว
ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบของรำข้าวภาวะเครียดออกซิเดชันและการอักเสบมีความเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคหลอดเลือดหัวใจ อาหารที่ประกอบด้วยสารกลุ่มโพลีฟีนอล (polyphenols) มีความสามารถในการต่อต้านการเกิดกลไกของการอักเสบ และรำข้าว (rice bran) ที่ได้จากการสีข้าวก็พบว่าอุดมไปด้วยสารสำคัญกลุ่ม polyphenols ได้แก่ phenolic acids จากการศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบของสารสกัดรำข้าวซึ่งประกอบด้วยสารสำคัญกลุ่ม phenolic ขนาด 25, 50, 100 และ 250 มคก./มล. ใน...

958

ฤทธิ์ยับยั้งการเกิดหลอดเลือดแข็งตัวของสารสกัดจากใบหม่อน
ฤทธิ์ยับยั้งการเกิดหลอดเลือดแข็งตัวของสารสกัดจากใบหม่อนการศึกษาในกระต่ายที่ถูกเหนี่ยวนำให้เกิดภาวะหลอดเลือดแข็งตัวด้วยการกินอาหารที่มีไขมันสูง โดยแบ่งเป็นกลุ่มควบคุมที่กินอาหารปกติ กลุ่มที่กินอาหารไขมันสูง กลุ่มที่กินอาหารไขมันสูงร่วมกับสารสกัดน้ำจากใบหม่อน ขนาด 1% และ 2% ตามลำดับ เป็นเวลา 25 สัปดาห์ พบว่าสารสกัดมีฤทธิ์ลดระดับของเอนไซม์ glutamic oxaloacetic transaminase และ glutamic pyruvic transaminase ทำให้การทำงานของตับดีขึ้น ลดระดับของคอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอร์ไรด์ low-density lipoprotein (LDL)...

1472

ฤทธิ์ต้านเบาหวานของสารสกัดเปลือกต้นสะเดา
ฤทธิ์ต้านเบาหวานของสารสกัดเปลือกต้นสะเดาสารสกัดเอทานอลจากเปลือกต้นสะเดา (Azadirachta indica A. Juss.) เมื่อนำมาแยกส่วนสกัดตามความมีขั้วด้วยตัวทำละลายต่างๆ เพื่อนำมาทดสอบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและฤทธิ์ลดน้ำตาล อันเป็นกลไกที่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคเบาหวาน พบว่าส่วนสกัดบิวทานอล (butanol fraction) มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระดีที่สุดเมื่อทดสอบด้วยวิธี 2,2′-diphenyl-1-picrylhydrazyl (DPPH) ส่วนการทดสอบด้วยวิธี Ferric reducing antioxidant power (FRAP) พบว่าส่วนสกัดน้ำ (aqueous fraction) ให้ฤทธิ์ดีที่สุด ...

1103

ฤทธิ์ต้านเบาหวานของใบมะกอกฝรั่ง
ฤทธิ์ต้านเบาหวานของใบมะกอกฝรั่งทดลองป้อนสารสกัด 80% เอทานอลใบมะกอกฝรั่งขนาดวันละ 200 และ 400 มก/กก. ให้แก่หนูแรทเพศผู้ที่ถูกเหนี่ยวนำให้เป็นเบาหวานโดยการเลี้ยงด้วยอาหารที่มีไขมันสูงและฉีดสาร streptozotocin ขนาด 40 มก./กก. เข้าทางช่องท้อง นาน 8 สัปดาห์พบว่า การป้อนสารสกัดเอทานอลใบมะกอกฝรั่งทั้งสองขนาดมีผลลดระดับน้ำตาลในเลือดและยับยั้งภาวะดื้อต่ออินซูลิน (Insulin resistance) โดยช่วยเพิ่มการแสดงออกของโปรตีน insulin receptor substrate 1 และยับยั้งการแสดงออกของโปรตีนที่เกี่ยวข้องในขบวนการอักเสบในเนื้...

594

การดื่มกาแฟเอเพรสโซมีผลกระตุ้นการทำงานของระบบประสาท
การดื่มกาแฟเอเพรสโซมีผลกระตุ้นการทำงานของระบบประสาท parasympatheticการศึกษาผลของการดื่มกาแฟต่อการทำงานของระบบประสาท sympathetic และ parasympathetic โดยทำการทดลองในอาสาสมัคร 20 คน ที่มีอายุระหว่าง 25-30 ปี ในจำนวนนี้เป็นอาสาสมัครเพศชาย 10 คน และเพศหญิง 10 คน โดยให้อาสาสมัครดื่มกาแฟสองแบบคือ กาแฟที่มีคาเฟอีน 75 มิลลิกรัม (espresso coffee) และกาแฟที่มีคาเฟอีนน้อยกว่า 18 มิลลิกรัม (decaffeinated coffee) ซึ่งอาสาสมัครทุกคนจะต้องดื่มกาแฟทั้งสองชนิด เมื่อดื่มกาแฟแล้วทำการวัดค่าความผันแปรของอัตราการเต้น...